ฟ้าผ่าเป็นปรากฏการทางธรรมชาติที่เกิดจากก้อนเมฆเคลื่อนที่ทำให้เกิดลมเสียดสีกับหยดน้ำและน้ำแข็งภายในก้อนเมฆทำให้เกิดการแตกตัวของประจุไฟฟ้าโดยที่ประจุลบจะรวมตัวกันอยู่ด้านล่างของก้อนเมฆและประจุบวกจะอยู่ด้านบน
ลักษณะของการเกิดฟ้าผ่า
ประจุลบที่รวมตัวกันอยู่ด้านล่างสามารถเหนียวนำวัตถุที่อยู่ภายใต้ก้อนเมฆให้เป็นประจุบวกได้ทั้งหมดพร้อมทั้งยังดึงประจุบวกเข้าหาอีกด้วย ถ้าหากประจุลบภายใต้ก้อนเมฆมีมากพอสามารถทำให้อากาศภายใต้ก้อนเมฆแตกตัวและประจุลบจะวิ่งลงด้านล่างพร้อมกันนั้นประจุบวกจะวิ่งขึ้นด้านบนเมื่อประจบกันจะทำให้เกิดฟ้าผ่านั้นเอง
คนเราส่วนมากจะมีโอกาสน้อยที่จะถูกฟ้าผ่าโดยตรงเพราะส่วนมากแล้วจะเป็นการโดนฟ้าผ่าแบบด้านข้างคือการที่เรายืนอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดฟ้าผ่าและประจุไฟฟ้าที่กระจายอยู่รอบๆนั้นวิ้งเข้าสู่ตัวเราถ้าปริมาณไฟฟ้ามากอาจทำให้เราถึงแก่ชีวิตได้
นอกจากนี้ยังมีฟ้าผ่าอีกประเภทหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อคนเราและยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักซักเท่าไรนั้นคือ "ฟ้าผ่าแบบบวก"
ฟ้าผ่าแบบบวกหรือฟ้าผ่าจากยอดเมฆลงสู่พื้นสามารถผ่าได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร ฟ้าผ่าแบบบวกมักจะเกิดหลังพายุฝนฟ้าคะนองเริ่มซาลง
แม้ฟ้าผ่าแบบบวกจะเกิดขึ้นน้อยมากเทียบได้กับ 5%ของการเกิดฟ้าผ่าทั้งหมด แต่ฟ้าผ่าแบบบวกนี้มีพลังมากเทียบกับฟ้าผ่าธรรมดาถึง 10 เท่า
กระแสไไฟ้าอาจสูงถึง 3 แสนแอมแปร์ และมีความต่างศักย์ 1 พันล้านโวลต์